[REVIEW] เริ่มต้นกับด้านหน้ามาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.3 นิ้ว แบบ IPS LCD ให้ความคมชัด
January 20 , 2019
: Hyper pixel
กล่องของเครื่องถือว่าน่าสนใจเพราะการออกแบบใหม่จนน่าใช้งานมากเลยครับ แต่ภายในประกอบไปด้วย
-
ตัวเครื่อง Redmi Note 7
-
เคสกันกระแทก
-
คู่มือ
-
เข็มสำหรับจิ้มถาดใส่ซิม
-
สาย USB-C
-
ปลั๊กชาร์จไฟ
SCREEN REDMI NOTE 7
เริ่มต้นกับด้านหน้ามาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.3 นิ้ว แบบ IPS LCD ให้ความคมชัด และเครื่องเล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย อาจจะมีขอบหน้าจออยู่บ้าง แต่ก็มาพร้อมกับความละเอียด FHD+ (2340x1080 พิกเซล) ส่วนบนของหน้าจอ จะมีกล้องหน้าอยู่ตรงกลางขนาด 13 ล้านพิกเซล ซ่อนเซนเซอร์ส่วนใหญ่ไว้ด้านบนของหน้าจอ และภายในหน้าจอมีสถานะของตัวเครื่องครบครัน
ส่วนล่างของหน้าจอ เป็นส่วนควบคุมหน้าจอ โดยสามารถสั่งทั้ง Recent สลับ Apps, Home กดเข้าหน้าจอ, และ Back สำหรับย้อนกลับ ส่วนไฟแจ้งเตือนอยู่ตำแหน่งนี้เช่นเดียวกัน
MICROSD REDMI NOTE 7
ด้านข้างออกแบบให้รับกับมือ และบางลงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้การออกแบบถือว่าใช้ได้เลยครับประกอบด้วย ฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ด Nano SIM + Hybrid Slot ที่มีให้เลือกทั้ง MicroSD, NanoSIM อันที่ 2 จะใส่ได้ต้องใช้ที่จิ้มถาดใส่ซิมดึงออกมา
BODY REDMI NOTE 7
ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง และ Power สามารถกดเปิดปิดเครื่อง แต่ถ้าใครอยาก Capture หน้าจอ ให้กด Power และปุ่มลดเสียงพร้อมกันก็จะ Capture หน้าจอแล้วครับ
ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง และ Power สามารถกดเปิดปิดเครื่อง แต่ถ้าใครอยาก Capture หน้าจอ ให้กด Power และปุ่มลดเสียงพร้อมกันก็จะ Capture หน้าจอแล้วครับ
ส่วนบนของเครื่องมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และ IR สำหรับใช้งาน Mi Remote ส่วนล่างของเครื่องมาพร้อมกับไมโครโฟน, ลำโพงตัวเครื่อง และ USB-C ที่สามารถเสียบอุปกรณ์ได้สารพัดเลย
พลิกมาด้านหลัง นอกจากสีสันของเครื่องที่มีให้เลือก 3 สี แต่มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ความละเอียด 48 + 5 ล้านพิกเซล และมี LED Flash นอกจากนี้ยังมีระบบสแกนลายนิ้วมือ แต่ภาพรวมของด้านหลังออกแบบให้โค้งมนรับกับมือ และอีกจุดดีคือด้านหลังเป็นกระจก Gorilla Glass 5 ทั้งแผ่น แข็งแรงทนทาน แต่อย่าทำตกบ่อยนะ
DESIGN REDMI NOTE 7
สำหรับการจับเครื่อง Redmi Note 7 เป็นมือถือที่ออกแบบได้เหมาะมือและใช้กระจกรอบตัวทำให้ดูดีและสวยงามอย่างมาก แม้ว่าจะมีความเสี่ยงเรื่องของรอย แต่ผมว่าน้อยกว่าพวกที่ด้านหลังเป็นพลาสติก ล่ะครับ แต่กล้องหลังนูนอาจจะให้ความรู้สึกแปลก แต่ผมว่า กระจกกล้องเล็กลงทำให้มันลดความเสี่ยงที่จะทำให้ไปขูดขีดอะไร น้ำหนักตัวเครื่องถือว่าไม่ได้มากเท่าไหร่ส่วนสีสันที่จำหน่ายในประเทศไทยมาพร้อมกับ 3 สีได้แก่ ดำ Space Black, น้ำเงิน Neture Black และ แดง Nebura Red
SPEC REDMI NOTE 7
-
สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 159.2 x 75.2 x 8.1 มม.
-
น้ำหนัก: 186 กรัม
-
การป้องกันน้ำและฝุ่น : -
-
หน้าจอ: LTPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล
-
ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 660 + Adreno 512
-
การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
-
ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie + MIUI 10
-
ระบบความปลอดภัย
-
ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ ด้านหลัง
-
ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
-
กล้องหลัง 2 ตัว : 48 ล้านพิกเซล (f1.8 Main) + 5 ล้านพิกเซล (Depth Sensor)
-
กล้องหน้า: 13 ล้านพิกเซล (f2.0)
-
แบตเตอรี : 4,000 mAh + Turbo Charge
-
แรม/ความจุ :RAM 3GB / ความจำ 32GB | RAM 4GB / ความจำ 64GB | RAM 4 GB / ความจำ 128 GB เพิ่มความจำได้แบบ Micro SD
-
สี : ดำ Space Black, น้ำเงิน Neture Black และ แดง Nebura Red
PERFORMANCE REDMI NOTE 7
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพ ทีม Sanook! Hitech เลือกใช้ Antutu โดยมีคะแนนอยู่ที่ 141,980 คะแนน Geekbench 4 คะแนนแบ่งออกเป็น Single Core 1642 คะแนน และ Multi Core 5578 คะแนน
เรียกได้ว่าคะแนนที่ออกมานั้นทำได้ดีเลยล่ะครับ กับการเล่นเกมถือว่าทำได้ไม่เลวเหมือนกัน ดังนั้น ถ้าคุณต้องการมือถือที่เล่นเกมได้ดี นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่แน ะนำว่า ควรเลือกรุ่น RAM 4GB ดีกว่า
สำหรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 AC, Bluetooth 5.0 และเมื่อใช้นำทางถือว่าค่อนช้างแม่นยำ เพราะมีการจับ GPS ทั้งแบบการใช้ดาวเทียมและ A-GPS ซึ่งเป็นการใช้คลื่นมือถือ
FEATURE REDMI NOTE 7
มาถึงเรื่องการแสดงผลของหน้าจอของเครื่องที่มีขนาด 6.3 นิ้วอัตราส่วน 19.5:9 ถือว่ามากพอสมควร รองรับการแสดงผลความละเอียด Full HD+ ให้การแสดงผลได้ดี แต่ขอบหน้าจอแม้ว่าจะลดลงจากเดิม แต่ก็ยังรู้สึกหนา แต่ถ้าเทียบใน Class เดียวกัน จะถือว่าหน้าจอใหญ่อย่างมาก
ส่วนเรื่องของระบบเสียง ให้เสียงที่คมชัดและดี นอกจากนี้ยังสามารถปรับระบบเสียงได้ และมีการจูนให้เหมาะสมกับหูฟังของ Xiaomi ทีออกมาหลากหลายรุ่นที่เราสามารถเลือกได้ ฟีเจอร์นี้จะไม่สามารถใช้งาน Bluetooth ได้
มาถึงเรื่องการแสดงผลของหน้าจอของเครื่องที่มีขนาด 6.3 นิ้วอัตราส่วน 19.5:9 ถือว่ามากพอสมควร รองรับการแสดงผลความละเอียด Full HD+ ให้การแสดงผลได้ดี แต่ขอบหน้าจอแม้ว่าจะลดลงจากเดิม แต่ก็ยังรู้สึกหนา แต่ถ้าเทียบใน Class เดียวกัน จะถือว่าหน้าจอใหญ่อย่างมากส่วนเรื่องของระบบเสียง ให้เสียงที่คมชัดและดี นอกจากนี้ยังสามารถปรับระบบเสียงได้ และมีการจูนให้เหมาะสมกับหูฟังของ Xiaomi ทีออกมาหลากหลายรุ่นที่เราสามารถเลือกได้ ฟีเจอร์นี้จะไม่สามารถใช้งาน Bluetooth ได้ ฟีเจอร์ของเครื่องยังคงเหมือนกับมือถือจาก Xiaomi นั่นคือมี เครื่องมือทั้ง เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, ระบบดูแลรักษาเครื่อง และอื่นๆ รวมไปถึง Mi Remote ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบใช้มือถือคุมอุปกรณ์ไร้สายได้
ระบบความปลอดภัยของ Redmi Note 7 จะมีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ เพราะสามารถใช้งานได้อย่างดี แตะแล้วใช้ได ้ดีเลย และอีกระบบคือ การสแกนใบหน้าแบบ 2D ที่น่าใช้งานเลยทีเดียว
CAMAERA REDMI NOTE 7
48 ล้านพิกเซล (f1.8 Main) มีเซนเซอร์แบบ Dual Pixel, AF5 ล้านพิกเซล (Depth Sensor) LED Flash หน้าตาการทำงานของ โหมดกล้องของ Redmi Note 7 เหมือนกับ มือถือจอจาก Xiaomi โดยมีการปรับลักษณะของการทำงานได้ง่าย และมีการเปิดปิด AI Scene ทได้ง่ายมาก ดังนั้นมันเ้ลยเป็นอีกมือถือที่สามารถทำงานได้ง่ายมาก พูดถึงกล้องหลังไปเยอะแล้ว มาถึงกล้องหน้ากันบ้างกับการติดตั้งเทคโนโลยี AI Scene ทำให้สามารถแบ่งแยกและจัดพื้นหลังได้อย่างเหมาะสม ส่วนการปรับ Beauty Mode ของกล้องหน้าทำได้ 10 Level เท่านั้น แต่ไม่สามารถเลือกปรับเองได้ การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าทำได้ระดับ Full HD
PHOTPGRAPHY & VIDEO REDMI NOTE 7
แต่สำหรับการถ่ายภาพกลางคืนด้วยการใช้เซนเซอร์แบบ Dual Pixel ทำให้ให้ภาพที่ได้รับแสงได้ดี และรูรับแสงมีการขยายกว้างทำให้ภาพที่ได้ออกมาสวยงามอย่าไม่น่าเชื่อถือว่าไม่แพง และคุ้มค่าพอสมควร เพราะเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วอาจจะมีราคาแพงกว่า แต่บางตัวก็จะได้ขุมพลังที่ใหม่กว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการมือถือที่ถ่ายภาพได้ดี สเปคเครื่องลงตัว และราคาจับต้องได้ง่าย แถมสีสันสวยงาม นี่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมากแต่เชื่อว่าหลายคนก็ตั้งตารอคอยอยากเป็นเจ้าของแล้วของมือถือรุ่นนี้สามารถจับจองเป็นเจ้าของตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2562