เสียวหมี่ขยับอันดับสูงขึ้นอีกครั้งในการจัดอันดับของ Fortune Global 500
กรุงเทพฯ ประเทศไทย 4 สิงหาคม 2565 – เสียวหมี่ กรุ้ป ประกาศการติดอันดับที่ 266 บนการจัดอันดับของ Fortune Global 500 ในปี 2565 วันนี้ บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสามของโลกได้ทำการขยับอันดับสูงขึ้นเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน
เสียวหมี่ติดอันดับ Fortune Global 500 ครั้งแรกในลำดับที่ 468 ในปี 2562 ซึ่งใช้เวลาเพียงเก้าปีนับจากการก่อตั้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีอันดับที่สูงขึ้นทุกปี จนอยู่ในอันดับที่ 422 ในปี 2563 และอันดับที่ 338 ในปีที่แล้ว
นิตยสารฟอร์จูนระบุว่าเสียวหมี่ติดอันดับเป็นครั้งแรกใน Fortune Global 500 ในปี 2562 ได้ไต่อันดับสูงขึ้นกว่า 200 อันดับภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี นับเป็นบริษัทเทคโนโลยีของจีนที่เติบโตเร็วที่สุด
รายรับและกำไรสุทธิหลังการปรับปรุงของเสียวหมี่ได้ทำสถิติสูงสุดในปี 2564 รายรับรวมของ เสียวหมี่ กรุ้ป ในปี 2564 อยู่ที่ 328.3 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 33.5% เมื่อเทียบปีต่อปี กำไรสุทธิหลังการปรับปรุงอยู่ที่ 22 พันล้านหยวนในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 69.5% เมื่อเทียบปีต่อปี รายรับจากตลาดต่างประเทศของ เสียวหมี่ กรุ้ป ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 33.7% เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็น 49.8% ของรายได้ทั้งหมด ในไตรมาสแรกของปี 2565 สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 51.1%
ด้วยกลยุทธ์ "สมาร์ทโฟน × AIoT" การจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกของเสียวหมี่ได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564 ผลิตภัณฑ์ AIoT ของบริษัทยังขยายตัวอย่างรวดเร็วซึ่งได้สร้างระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ล้อมรอบสมาร์ทโฟน ตามผลการรายงานจาก Canalys เสียวหมี่นั้นอยู่ในอันดับที่สามในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนทั่วโลกโดยมีส่วนแบ่งตลาด 14.1% ในปี 2564 ยอดขายสมาร์ทโฟนเป็นอันดับหนึ่งในกว่า 14 ตลาดและอยู่ในห้าอันดับแรกใน 62 ตลาด ตามรายงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เสียวหมี่มีอุปกรณ์อัจฉริยะมากกว่า 434 ล้านเครื่องเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม (ไม่รวมสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป) เพิ่มขึ้นกว่า 33.6% เมื่อเทียบปีต่อปี จำนวนผู้ใช้งาน MIUI รายเดือนทั่วโลกสูงเป็น 509 ล้านยูเซอร์เพิ่มขึ้น 28.4% เมื่อเทียบปีต่อปี
ในปี 2564 ส่วนแบ่งการจัดส่งสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ของเสียวหมี่เพิ่มขึ้นประมาณ 13% ของการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั้งหมดของบริษัทซึงเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปีก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน เสียวหมี่ได้เพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ในปี 2564 เสียวหมี่ได้ลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนาไปถึง 13.2 พันล้านหยวนซึ่งเพิ่มขึ้น 42.3% เมื่อเทียบปีต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้าการลงทุนของเสียวหมี่ในด้านการวิจัยคาดว่าจะเกิน 100 พันล้านหยวน นอกจากนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 เสียวหมี่ยังได้รับสิทธิบัตรมากกว่า 26,000 รายการ มีการยื่นขอจดสิทธิบัตรทั่วโลกเกิน 53,000 รายการ
ในอนาคตเสียวหมี่มุ่งมั่นที่จะสร้างผลิตภัณฑ์อันน่าทึ่งในราคาที่เป็นจริงเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านเทคโนโลยีนวัตกรรมอันล้ำหน้า
Comments